ซิเมโอเน่ เผยสาเหตุที่ไม่ได้จับมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล

 

ซิเมโอเน่ เผยสาเหตุที่ไม่ได้จับมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล

หลังที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอต. มาดริด ไม่อยู่จับมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล จนเปลี่ยนเป็นมุมมองในระดับหนึ่ง ล่าสุด ซิเมโอเน่ ก็กล่าวเองว่าไม่ได้ชอบวัฒนธรรมแบบนั้นอยู่แล้ว พร้อมชมลูกทีมด้วยเช่นกันที่เพียรพยายามสู้ได้อย่างดี

   ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ แอตเลติโก มาดริด ยอดสโมสรแห่งเวที ลา ลีกา สเปน เปิดเผยว่าสาปัจจัยที่ตนไม่อยู่จับมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เป็นเนื่องด้วยตนรังเกียจวัฒนธรรมการหยิบมือกันหลังจบการแข่งขันชิงชัยอยู่แล้ว

   เมื่อวันอังคารที่ 19 ตุลาคม ก่อนหน้านี้ ซิเมโอเน่ พากลุ่มแพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 คารัง ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร

อบแบ่งแยกกลุ่ม หมู่ บี จนทำให้ทีมของเขาพึ่งรวบรวมได้แค่ 4 คะแนนจากการลงเล่น 3 นัด ซึ่งหลังจากจบเกมไปแล้วนั้น คล็อปป์ บากบั่นที่จะไปหยิบมือกับกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ด้วย แต่อีกฝ่ายกลับวิ่งเข้าอุโมงค์ไปทันทีจนส่งผลให้บางคนว่ากล่าว ซิเมโอเน่ ในระดับหนึ่ง

   ข้างหลังโดนซักถามถึงชอตที่เขามิได้จับมือกับ คล็อปป์ แล้วนั้น ซิเมโอเน่ ก็ตอบว่า "เดิมทีผมก็ไม่ใช่ผู้ที่ชอบทักทายกับกุนซือของอีกฝ่ายหลังจบเกมอยู่แล้ว 

เพราะเหตุว่าผมเกลียดชังแนวทางการทำอะไรเช่นนั้น แนวทางการทำเช่นนั้นมันมิได้เป็นเรื่องดีต่ออีกทั้งฝ่ายที่ชนะหรือฝ่ายที่แพ้เลย ผมคิดแบบนั้นนะ แต่ถ้าภายหลังนี้ผมเหน้าจอเขาเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ ผมก็จะทักทายเขาในแบบที่ไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ทั้งยังนั้น"

   แต่ก่อนแข้งคนเหมือนกับยอมรับด้วยว่าวันนี้ ลิเวอร์พูล เล่นได้ดิบได้ดีมากๆ แต่มองว่ากลุ่มของตนเองก็มานะได้ดิบได้ดีแล้วภายหลังจากโดนนำไปก่อน 2 ลูก 

"นี่เป็นเกมที่ยากสำหรับการเจอกับคู่ต่อสู้ที่เล่นได้อย่างเยี่ยมที่สุด ทั่วไปแล้วหมู่เขาจะชนะด้วยสกอร์ที่ทิ้งห่างคู่แข่งขันได้เยอะเพียงพอตัวเลยนะ วันนี้เราเริ่มต้นเกมกันไม่ได้ตามแบบที่ต้องการ และหลังจากเกิดลูกที่ 2 แล้วน่ะพวกเราก็ตั้งต้นเล่นกันตามแบบที่อยากจะได้สักที"

   "เราได้โอกาสที่จะแซงนำหมวดเขาได้อีกด้วย ในครึ่งข้างหลังผู้รักษาประตูของหมู่เขาก็กระทำเซฟที่เยี่ยมที่สุดได้อีกครั้ง ทีมของผมสนองตอบได้ดีในตอนที่เราตามข้างหลัง 1 ลูก แต่แล้วหมวดเขาก็มาได้ลูกจุดโทษ"

ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่>>> https://footbod.blogspot.com/